วันอังคารที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2550

ทุกข์ของชาวนา


เปิปข้าวทุกคราวคำ จงสูจำเป็นอาจิณ
เหงื่อกูที่สูกิน จึงก่อเกิดมาเป็นคน
ข้าวนี้น่ะมีรส ให้ชนชิมทุกชั้นชน
เบื้องหลังสิทุกข์ทน และขมขื่นจนเขียวคาว
จากแรงมาเป็นรวง ระยะทางนั้นเหยียดยาว
จากรวงเป็นเม็ดพราว ล้วนทุกข์ยากลำเค็ญเข็ญ
เหงื่อหยดสักกี่หยาด ทุกหยดหยาดล้วนยากเย็น
ปูดโปนกี่เส้นเอ็น จึงแปรรวงมาเปิปกิน
น้ำเหงื่อที่เรื่อแดง และน้ำแรงอันหลั่งริน
สายเลือดกูทั้งสิ้น ที่สูซดกำซาบฟัน





ดูจากสรรพนามที่ใช้ว่า “กู” ในบทกวีนี้ แสดงว่าผู้ที่พูดคือชาวนา ชวนให้คิดว่าเรื่องจริงๆนั้นชาวนาจะมีโอกาสไหมที่จะ “ลำเลิก” กับใครๆว่าถ้าไม่มีคนที่คอยเหนื่อยยากตรากตรำอย่างพวกเขา คนอื่นๆจะเอาอะไรกิน เราควรต้องรู้จักให้ความสำคัญกับสิ่งต่างๆถึงแม้มันอาจดูเป็นสิ่งที่มีค่าเล็กน้อย อย่างเช่น “ข้าว” แต่จงเชื่อว่าถึงแม้มันอาจจะเป็นสิ่งที่เมื่อดูด้วยตาเปล่าจะเป็นสิ่งที่ดูเล็กๆ แต่ถ้ามองดูให้ลึก มองแล้วคิดตามไปว่ากว่าจะเป็นข้าวที่มาอยู่ในจานข้าวนี้ที่เรากิน ใครบางคนซึ่งเราอาจไม่เคยสนใจไม่รับรู้ในสิ่งที่เขาทำนั้น เขาคนนั้นอาจจะต้องลำบากก้มๆเงยๆกี่ครั้งจนกว่าจะเป็นข้าวในจานนี้ที่เรากิน จึงอยากให้ทุกคนลองคิดถึงบุญคุณของคนที่ถึงแม้อาจจะไม่ใช่คนในบรรดาญาติมิตร พ่อแม่ หรือคนรู้จักก็ตาม แต่ก็อยากให้ทุกคนรู้จักบุญคุณของคนคนนั้น คนคนนั้นซึ่งเป็นชาวนา

ไม่มีความคิดเห็น: